คนไทยอย่างเรา ๆ คงมีความคิดที่ว่าประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ทำงานกันเป็นบ้าเป็นหลัง วันหยุดคงจะไม่เยอะ แต่ในความเป็นจริงแล้ว จำนวนวันหยุดของประเทศญี่ปุ่นกับประเทศไทยนั้นเรียกได้ว่าไม่น้อยหน้ากันเลย โดยอ้างอิงจากวันหยุดของประเทศไทยและญี่ปุ่นในปี 2020 นี้ ประเทศไทยมีวันหยุดราชการอยู่ที่ 19 วัน (18 วันสำหรับสถาบันการเงิน) ในขณะที่ ประเทศญี่ปุ่นก็ไม่น้อยหน้ามีวันหยุดที่ 16 วันตามตารางด้านล่างนี้
วันที่ | วันหยุด |
1 ม.ค. | วันขึ้นปีใหม่ |
13 ม.ค. | วันบรรลุนิติภาวะ |
11 ก.พ. | วันสถาปนาชาติ |
23 ก.พ. | วันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระจักรพรรดิ |
24 ก.พ. | (วันหยุดชดเชย) |
20 มี.ค. | วันชุนบุน (วันเริ่มต้นฤดูใบไม้ผลิ) |
29 เม.ย. | วันโชวะ (ฉลองจักรพรรดิโชวะ) |
3 พ.ค. | วันรัฐธรรมนูญ |
4 พ.ค. | วันสีเขียว (พักผ่อนดูธรรมชาติ) |
5 พ.ค. | วันเด็ก |
6 พ.ค. | (วันหยุดชดเชย) |
23 ก.ค. | วันทะเล |
24 ก.ค. | วันกีฬา |
10 ส.ค. | วันภูเขา |
21 ก.ย. | วันผู้สูงอายุ |
22 ก.ย. | วันชูบุน (วันเริ่มฤดูใบไม้ร่วง) |
3 พ.ย. | วันวัฒนธรรม |
23 พ.ย. | วันขอบคุณแรงงาน |
จะเห็นได้ว่าญี่ปุ่นจะมีช่วงวันหยุดที่เยอะที่สุดในช่วงเดือนปลายเดือน เม.ย. ผสมกับต้นเดือน พ.ค. ซึ่งเราจะรู้จักกันในนาม “โกลเด้นวีค” ซึ่งเป็นช่วงอาทิตย์ที่คนญี่ปุ่นทั้งประเทศจะหยุดพักผ่อนไปเที่ยว ซึ่งเปรียบได้กับช่วงสงกรานต์ของบ้านเรานั้นเอง
อย่างไรก็ดี จากแหล่งข่าวญี่ปุ่นหลาย ๆ พบว่าบริษัทญี่ปุ่นส่วนมากที่อยู่ในลักษณะบริษัทแรงงานทาสที่คนญี่ปุ่นมักจะเรียกกันว่า “บริษัทสีดำ” หรือ “Black Company” นั้นจะไม่อนุญาตให้พนักงานของตัวเองใช้วันลาหยุดพักผ่อนประจำปีเพื่อไปเที่ยว อีกทั้งกฎหมายญี่ปุ่นเองก็ไม่ได้มีการกำหนดเรื่องการลาหยุดในกรณีที่ป่วยเอาไว้ด้วย เพราะฉะนั้นแล้วสำหรับมนุษย์เงินเดือน ถ้าไม่ได้อยู่ในบริษัทที่ดีก็จะไม่มีวันหยุดเพิ่มไปมากกว่าวันหยุดนักขัตฤกษ์ที่กำหนดไว้โดยกฎหมาย โดยส่วนมากจะใช้วันหยุดพักผ่อนประจำปีของตัวเองเฉพาะในกรณีที่มีการลาป่วย (ซึ่งคำว่าป่วยของบริษัทในลักษณะ Black Company จะไม่รวมถึงกรณีการเป็นไข้หวัดด้วยนะจ๊ะ)